วันที่ 9 กรกฎาคม 2552
เริ่มต้นของวันนี้พวกเราได้ไปที่ศูนย์วัฒนธรรมของมหาลัยเชียงใหม่ ในส่วนวัฒนธรรมนี้ได้รวมบ้านเรือนไทยทางภาคเหนือแบบต่างๆไว้ด้วยกันในพื้นที่ส่วนของมหาลัยเชียงใหม่ บ้านเรือนไทยภาคเหนือส่วนใหญ่ผนังจะมีลักษณะสอบออก นอกจากนี้บางหลังยังมีการตัดเสาตรงกลางเพื่อทำรางน้ำฝนไม่มีการปิดส่วนฝ้าโชว์โครงสร้างฝ้าเพดานบนฝ้าเพดานนั้นใช้เป็นพื้นที่วางของต่างๆ บางหลังเป็นเรือนแฝดมีรางน้ำอยู่ตรงกลางระหว่างเรือน บริเวณข้างเรือนแฝดมียุ้ฝข้าวขนาดใหญ่อยู่ ยุ้งข้าวนี้มีขนาดความสูงจากพื้นมาก บ้านแต่ละหลังนั้นมี space ที่ลื่นไหลในตัวของมันเอง มี space ส่วนเชื่อมต่อแต่ละส่วนอย่างน่าสนใจ ใต้ถุนที่ยกสูงของบ้านแต่ละหลังนั้นใช้เป็นพื้นที่เก็บของ บางหลังเหมือนจะใช้เป็นที่เลี้ยงสัตว์ บางหลังใช้เป็นพื้นที่พักผ่อน โครงสร้างบ้านแต่ละหลังมีลักษณะเฉพาะตัว
หลังจากศึกษาเกี่ยวกับบ้านลักษณะต่างๆเสร็จเราก็ได้เดินทางจากเชียงใหม่เพื่อไปจุดหมายต่อไปนั้นคือเชียงใหม่ระหว่างทางเราก็ได้แวะอีกแล้วครับแวะไปยังหมู่บ้านที่อยู่ในจังหวัดแพร่ซึ่งลักษณะหมู่บ้านที่เราไปนั้นมีลักษณะการตั้งอยู่บริเวณที่เป็นเนินเขาเนื่องจากทางเชื่อมต่อระหว่างบ้านนั้นมีเส้นทางที่เป็นเนิน หมู่บ้านแห่งนี้มีลักษณะเป็นหมู่บ้านเกษตรกรม พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันซึ่งส่วนใหญ่หมู่บ้านในต่างจังหวัดจะมีลักษณะเช่นนี้อยู่ บ้านแต่ละหลังมีความสวยที่อาจจะเกิดจากความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจของเจ้าของบ้าน ความสวยที่เกิดสภาพแวดล้อมของธรรมชาติโดยรอบ เศรษฐกิจน่าจะเป็นอยู่อย่างพอมีพอกิน มันทำให้เห็นถึงความเลื่อมล้ำทางสังคมอย่างชัดเจน ในเมื่อสังคมเมืองพัฒนาไปอย่างรวดเร็วมีคนรวยเกิดขึ้นมากมาย แต่สังคมชนบทกลับพัฒนาไปอย่างช้าๆ
ทำให้มีความเป็นอยู่ที่ค่อนข้างลำบาก แต่ในความที่เป็นสังคมชนบทนั้นก็มีข้อดีคือถึงจะพัฒนาไปอย่างช้าๆแต่ก็มีการช่วยเหลือกันตลอดเวลา มีความเอื้อเฟื้อต่อกันมากมาย ต่างจากสังคมเมืองที่ไม่มีสิ่งเหล่านี้อยู่เลย ถ้าสังคมเมืองนั้นมีสิ่งเหล่านี้อยู่จะทำให้สังคมเมืองน่าอยู่ขึ้น และจะสามารถแบ่งปันความสะดวกสบายโดยไม่ทำลายวัฒนธรรมต่างๆของสังคมชนบททำให้สังคมชนบทมีความเจริญ เมื่อทั้งสังคมเมืองและชนบทเติบโตไปด้วยกันนั้นจะทำให้ประเทศพัฒนาไปได้ในทิศทางที่ดีและยังไม่ทำลายเอกลักษณ์ วัฒนธรรมพื้นถิ่นต่างๆของเราอีกด้วย

หลังจากศึกษาเกี่ยวกับบ้านลักษณะต่างๆเสร็จเราก็ได้เดินทางจากเชียงใหม่เพื่อไปจุดหมายต่อไปนั้นคือเชียงใหม่ระหว่างทางเราก็ได้แวะอีกแล้วครับแวะไปยังหมู่บ้านที่อยู่ในจังหวัดแพร่ซึ่งลักษณะหมู่บ้านที่เราไปนั้นมีลักษณะการตั้งอยู่บริเวณที่เป็นเนินเขาเนื่องจากทางเชื่อมต่อระหว่างบ้านนั้นมีเส้นทางที่เป็นเนิน หมู่บ้านแห่งนี้มีลักษณะเป็นหมู่บ้านเกษตรกรม พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันซึ่งส่วนใหญ่หมู่บ้านในต่างจังหวัดจะมีลักษณะเช่นนี้อยู่ บ้านแต่ละหลังมีความสวยที่อาจจะเกิดจากความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจของเจ้าของบ้าน ความสวยที่เกิดสภาพแวดล้อมของธรรมชาติโดยรอบ เศรษฐกิจน่าจะเป็นอยู่อย่างพอมีพอกิน มันทำให้เห็นถึงความเลื่อมล้ำทางสังคมอย่างชัดเจน ในเมื่อสังคมเมืองพัฒนาไปอย่างรวดเร็วมีคนรวยเกิดขึ้นมากมาย แต่สังคมชนบทกลับพัฒนาไปอย่างช้าๆ
ทำให้มีความเป็นอยู่ที่ค่อนข้างลำบาก แต่ในความที่เป็นสังคมชนบทนั้นก็มีข้อดีคือถึงจะพัฒนาไปอย่างช้าๆแต่ก็มีการช่วยเหลือกันตลอดเวลา มีความเอื้อเฟื้อต่อกันมากมาย ต่างจากสังคมเมืองที่ไม่มีสิ่งเหล่านี้อยู่เลย ถ้าสังคมเมืองนั้นมีสิ่งเหล่านี้อยู่จะทำให้สังคมเมืองน่าอยู่ขึ้น และจะสามารถแบ่งปันความสะดวกสบายโดยไม่ทำลายวัฒนธรรมต่างๆของสังคมชนบททำให้สังคมชนบทมีความเจริญ เมื่อทั้งสังคมเมืองและชนบทเติบโตไปด้วยกันนั้นจะทำให้ประเทศพัฒนาไปได้ในทิศทางที่ดีและยังไม่ทำลายเอกลักษณ์ วัฒนธรรมพื้นถิ่นต่างๆของเราอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น